ณ บัดนี้จักได้ขยายความกระทู้ธรรมสุภาษิตที่ได้ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้น พอเป็นแนวทางแห่งการศึกษา และนำไปฏิบัติสึบต่อไป
บุคคลผู้ประพฤติธรรมและรู้จักพระธรรมแล้ว ยอมจะอยู่ด้วยการเป็นสุขเพราะเป็นอยู่ด้วยการสำรวจ กาย
วาจา ใจ ปราศจากกิเลส เครื่องทำให้เศร้าหมอง อยู่ด้วยความไม่ประมาท ด้วยอนิสงฆส์แห่งการ
ประพฤติธรรมนั้น เขาย่อมได้ผลแห่งการประพฤตินั้น คือความสบายกาย สบายใจ ชึ่งเป็นความสุขที่เลิศก่
วาความสุขทังปวง ในโลกนี้และโลกหน้า ดั่งนั้น บุคคลผู้ประพฤติธรรม ย่อมเกิดอนิสงส์แห่งความสุข ดั่ง
สุภาษิตกล่วาไว้ เบื้องต้นนั้นว่า
ธมฺมจารี สุขํ เสติ
แปลว่า ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข
บุคคลผู้ประพฤติธรรมและรู้จักพระธรรมแล้ว ยอมจะอยู่ด้วยการเป็นสุขเพราะเป็นอยู่ด้วยการสำรวจ กาย
วาจา ใจ ปราศจากกิเลส เครื่องทำให้เศร้าหมอง อยู่ด้วยความไม่ประมาท ด้วยอนิสงฆส์แห่งการ
ประพฤติธรรมนั้น เขาย่อมได้ผลแห่งการประพฤตินั้น คือความสบายกาย สบายใจ ชึ่งเป็นความสุขที่เลิศก่
วาความสุขทังปวง ในโลกนี้และโลกหน้า ดั่งนั้น บุคคลผู้ประพฤติธรรม ย่อมเกิดอนิสงส์แห่งความสุข ดั่ง
สุภาษิตกล่วาไว้ เบื้องต้นนั้นว่า
ธมฺมจารี สุขํ เสติ
แปลว่า ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข
👍👍👍👍
ตอบลบ